ไวรัสโรต้าในเด็ก

Last updated: 14 มี.ค. 2561  |  4921 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ไวรัสโรต้าในเด็ก

ไวรัสโรต้าในเด็ก

โรคท้องเสียโรต้า เกิดจากไวรัสชนิดหนึ่งชื่อโรต้าไวรัส เมื่อเด็กได้รับเชื้อไวรัสชนิดนี้เข้าไปในทางเดินอาหาร เชื้อจะทำให้เยื่อบุลำไส้เล็กบาดเจ็บ ทำให้เซลล์เยื่อบุลำไส้เล็กสร้างน้ำย่อยได้น้อยลง ทำให้การย่อยนมและอาหารลดลงการดูดซึมน้ำลดลง ขณะเดียวกันลำไส้เล็กมีการหลั่งเกินร่วมด้วย ทำให้เกิดท้องเสีย เมื่อเซลล์เยื่อบุลำไส้สร้างเสริมขึ้นมาซ่อมแซมซึ่งมักจะเกิดขึ้นใน 3-5 วัน อาการท้องเสียก็จะหายไปอาการทางคลินิก

ผู้ป่วยมีไข้ อาเจียนมากในวันแรก ตามด้วยท้องเสีย ถ่ายเหลวปนน้ำ อุจจาระมักมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว อาการอาเจียนและท้องเสียทำให้เด็กเกิดภาวะขาดน้ำ อาการที่แสดงถึงภาวะขาดน้ำ ได้แก่ ปากแห้ง ร้องไห้ไม่มีน้ำตา กระหายน้ำมาก ตาโหล กระหม่อมบุ๋ม หากขาดน้ำรุนแรงมากขึ้น ก็จะทำให้เด็กซึม ปัสสาวะน้อย หากยังไม่ได้รับการรักษาจะเป็นอันตรายจนอาจช็อกได้ อาการท้องเสียมักจะเป็นอยู่ประมาณ 3-7 วัน

การรักษา ที่สำคัญที่สุด คือ การแก้ไขภาวะขาดน้ำ โดยการให้ผงเกลือแร่ โอ อาร์ เอส และการให้อาหารที่เหมาะสม โดยให้ครั้งละ
น้อย ๆ แต่ให้บ่อย ๆ เพื่อให้ลำไส้สามารถย่อยและดูดซึมได้ทัน ไม่จำเป็นต้องงดนมหรืองดอาหาร การให้นมที่ไม่มีน้ำตาลแลคโทสอาจช่วยได้ในทารก โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายที่อาการรุนแรงหรือเด็กขาดอาหารอยู่ก่อน ในเด็กที่อายุเกิน 6 เดือน ควรให้อาหารอ่อนย่อยง่ายร่วมด้วย เช่น โจ๊กไก่ หรือโจ๊กหมู เป็นต้น

การกินยาปฏิชีวนะนั้นไม่มีประโยชน์เพราะไม่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสได้ ส่วนยาลดอาการท้องเสียไม่มีความจำเป็น และบางชนิดอาจมีอันตรายต่อเด็กเล็ก หากจะใช้ควรเลือกยาชนิดที่ไม่มีผลข้างเคียงหรือมีน้อยมาก ส่วนจุลินทรีย์สุขภาพหรือโปรไบโอติกส์มีเพียงบางสายพันธุ์ที่มีผลการศึกษา ว่าช่วยให้อาการท้องเสียหายเร็วขึ้นได้บ้าง

กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ขวบ เป็นช่วงอายุที่พบบ่อยที่สุด เด็กที่อยู่รวมกันในสถานเลี้ยงเด็กและเด็กที่ใกล้ชิดกับเด็กที่ท้องเสียจาก เชื้อนี้ ส่วนผู้ใหญ่มักจะมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสโรต้าแล้วจึงไม่น่ากังวล

วิธีการปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยง เนื่องจากเชื้อติดต่อจากคนสู่คน โดยการรับประทานเชื้อเข้าไป การป้องกันอาจจะทำได้โดยการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลให้ดีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ควรหมั่นล้างมือบ่อย ๆ โดยเฉพาะก่อนเตรียมหรือก่อนรับประทานอาหารหรือนม หรือหลังจากเข้าห้องน้ำ หลีกเลี่ยงสัมผัสกับผู้ที่มีอาการท้อง เสีย

อีกวิธีหนึ่งในการป้องกัน คือ การรับวัคซีนโรต้า

ข้อมูลวัคซีนโรต้า

เป็นวัคซีนชนิดหยอด ในขณะนี้มี 2 ชนิดในประเทศไทย เริ่มหยอดครั้งแรกอายุไม่ต่ำกว่า 6 สัปดาห์ ครั้งต่อไปให้ห่างจากครั้งแรกอย่างน้อย 4 สัปดาห์ หยอดทั้งหมด 2 หรือ 3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับชนิดวัคซีน ดังนี้

ชนิดแรก หยอดทั้งสิ้น 2 ครั้ง ครั้งสุดท้ายควรให้เสร็จก่อนอายุ 6 เดือน

ชนิดที่สอง หยอดทั้งสิ้น 3 ครั้ง ครั้งสุดท้ายควรให้เสร็จก่อนอายุ 8 เดือน

ประสิทธิภาพของวัคซีน วัคซีนลดอาการท้องเสียอย่างรุนแรงจากเชื้อโรต้าไวรัสได้ 80-90% ลดการรับผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาลเนื่องจากท้องเสียได้ประมาณ 80-95% โดยรวมป้องกันท้องเสียจากเชื้อโรต้าได้ถึง 70%

ผลข้างเคียงของวัคซีน วัคซีนมีความปลอดภัยสูง มีอาการข้างเคียงได้บ้าง เช่น ไข้ ถ่ายเหลว อาเจียน ซึ่งไม่รุนแรง มีรายงานการเกิดภาวะลำไส้กลืนกันหลังรับวัคซีนได้บ้างหลังรับวัคซีนยังมี โอกาสเกิดโรคได้อยู่บ้าง แต่เมื่อติดเชื้อไวรัสโรต้าและเกิดโรคอุจจาระร่วง อาการมักจะไม่รุนแรง.

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
www.thaibizcenter.com
รศ.พญ.สุพร ตรีพงษ์กรุณา
หัวหน้าหน่วยทางเดินอาหาร
ภาควิชากุมารเวชศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้