สงสารลูกท้องผูกอีกแล้ว

สงสารลูกท้องผูกอีกแล้ว

ภาวะท้องผูกเป็นปัญหาที่พบได้ในเด็กทารกและเด็กเล็ก พ่อแม่ส่วนใหญ่เมื่อเห็นว่าลูกไม่ถ่าย 2-3 วัน มักจะเข้าใจว่าลูกท้องผูก ไม่มีข้อกำหนดตายตัวว่า วันหนึ่งเด็กๆควรถ่ายกี่ครั้ง เพราะเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ปกติเด็กที่กินนมแม่จะถ่ายบ่อยกว่าเด็กที่กินนมผงดัดแปลง   เด็กอาจท้องผูกเนื่องด้วยช่วงที่เปลี่ยนนมจากนมผสมไปเป็นนมวัว และส่วนใหญ่เด็กที่กินนมผสมจะพบปัญหาท้องผูกบ่อย  บางครั้งเด็กอาจท้องผูกเมื่อได้รับอาหารเสริมที่มีกากอาหารน้อย การได้รับน้ำน้อยเกินไป หรือจากการที่เด็กไม่สบายเป็นไข้และไม่อยากนม หรืออาหาร
   
อาการท้องผูกคือ
การขับถ่ายยาก อุจจาระแข็งผิดปกติ ลักษณะเป็นก้อนเหมือนลูกหิน เด็กจะร้องไห้เพราะเจ็บทวารหนัก เวลาเบ่งบางครั้งอาจมีเลือดออกได้ คุณแม่จึงไม่ควรละเลย

แก้ท้องผูกอย่างไรดี
1. ถ้าท้องผูกเกิดจากนมผสมที่กิน ลองเปลี่ยนยี่ห้อนม หรือ รับคำแนะนำจากกุมารแพทย์
2. ถ้าลูกกินน้ำน้อย ให้ดื่มน้ำลูกพรุน 1-2 ออนซ์ ผสมกับน้ำปริมาณเท่ากัน คือผสมน้ำอัตราส่วน 1 : 1 (ในเด็กทารกที่อายุน้อยกว่า 3 เดือน ให้น้ำลูกพรุนแค่ครึ่งออนซ์)
3. สำหรับเด็กที่กินอาหารเสริมแล้วและอายุมากกว่า 6 เดือน ให้อาหารเสริมที่มีกากอาหารมากขึ้น เช่น ผัก ผลไม้ ลดอาหารจำพวกกล้วยลงเพราะกล้วยมีกากอาหารน้อย
4. นวดแก้ท้องผูก การนวดจะทำให้ลำไส้ใหญ่เคลื่อนตัวไปมา อุจจาระเคลื่อนที่ ทำให้ถ่ายได้ดีขึ้น การนวดสามารถทำได้ง่ายๆโดยการ ให้ฝ่ามือกดบริเวณหน้าท้อง คลึงเบาๆจากหน้าท้องทางด้านขวาด้านล่าง นวดไล่ขึ้นมาทางด้านบนแบบทวนเข็มนาฬิกา มาทางด้านซ้ายล่าง การนวดชนิดนี้จะเป็นการนวดไล่อุจจาระให้มาอยู่บริเวณลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย ทำให้ถ่ายได้เร็วขึ้น ส่วนในเด็กเล็กๆอาจจะใช้วิธีการถีบจักรยานอากาศ โดยให้แกนอนราบลง ยกขาทั้งสองข้างขึ้นมา หมุนไปมาเหมือนกับการขี่จักรยาน
5. หากแก้ไขทุกวิธีแล้วยังไม่หาย ควรปรึกษากุมารแพทย์ค่ะ คุณหมออาจจะให้ยาเหน็บทวารหนักจำพวกกลีเซอร์ลีน (Glycerin) มาเหน็บ ยาเหน็บกลีเซอร์ลีนจะกระตุ้นลำไส้ให้เกิดความอยากถ่าย ยาชนิดนี้สามารถใช้ได้เป็นครั้งคราวเมื่อมีปัญหาท้องผูก แต่ไม่ควรใช้เป็นประจำ เพราะอาจจะทำให้เด็กเคยชินกับการเหน็บยา จำเป็นต้องใช้ไปเรื่อยๆ
6. หากบริเวณทวารหนักของเด็กมีรอยผิวแตก เนื่องจากอุจจาระที่แข็งครูดกับรูทวารหนัก ควรจะล้างด้วยน้ำอุ่นทุกวัน และทาด้วยวาสลีนหรือครีมให้ความชุ่มชื่น

ดัดแปลงและอ้างอิงข้อมูลจาก หนังสือคุณแม่คุณภาพ